วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552
รู้ไว้ใช่ว่ากลุ่มดาวชนิดนี้รูจักกันดีหรือยัง
กลุ่มดาวแพะทะเล
กลุ่มดาวแพะทะเล หรือกลุ่มดาวมกร เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบของกลุ่มดาวจักรราศี และเป็นกลุ่มดาวแนวกาแล็กซี่ ทางช้างเผือก (The Milky Way) พาดผ่าน โดยกลุ่มดาวนี้ เป็นรูปครึ่งแพะ-ครึ่งปลา โดยส่วนหัวเป็นแพะ ส่วนหางเป็นปลา อยู่ทางทิศตะวันออกของ กลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) หรือลากเราสามารถเห็นกลุ่มดาวนี้ ได้จากกลุ่มดาววีกา (Vega, -Lyr) ลากมายังดาวอัลแตร์ (Altair, -Aql) แล้วต่อมายังเขาของแพะทะเล (-) โดยกลุ่มดาวแพะทะเล จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของต้น เดือนสิงหาคม โดยจะค่อนไปทางซีกฟ้าใต้ คนไทยมักเรียกผิด เป็น "กลุ่มดาวมังกร" (Drago)
กลุ่มดาวแพะทะเล หรือกลุ่มดาวมกร เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบของกลุ่มดาวจักรราศี และเป็นกลุ่มดาวแนวกาแล็กซี่ ทางช้างเผือก (The Milky Way) พาดผ่าน โดยกลุ่มดาวนี้ เป็นรูปครึ่งแพะ-ครึ่งปลา โดยส่วนหัวเป็นแพะ ส่วนหางเป็นปลา อยู่ทางทิศตะวันออกของ กลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) หรือลากเราสามารถเห็นกลุ่มดาวนี้ ได้จากกลุ่มดาววีกา (Vega, -Lyr) ลากมายังดาวอัลแตร์ (Altair, -Aql) แล้วต่อมายังเขาของแพะทะเล (-) โดยกลุ่มดาวแพะทะเล จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของต้น เดือนสิงหาคม โดยจะค่อนไปทางซีกฟ้าใต้ คนไทยมักเรียกผิด เป็น "กลุ่มดาวมังกร" (Drago)
วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เคล็ดลับการเรียนเก่งของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ข้อมูลจากหนังสือ "เดอะท็อปซีเคร็ต" กล่าวว่า อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พยายามจะอธิบายความลับสุดยอดนี้ เขาย้ำว่า การค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ทุกอย่างของเขา มาจากจินตนาการ และถ้าจะเทียบระหว่างความรู้ กับ จินตนาการ เขาบอกว่า จินตนาการสำคัญกว่า จินตนาการเป็นเชาว์ปัญญาขั้นสูงสุด และมันจะนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆได้อย่างไม่สิ้นสุด ขณะที่มีชีวิตอยู่ เขาย้ำนักย้ำหนาหลายต่อหลายครั้งกับนักศึกษาที่เขาสอน และต่อที่ประชุมนักวิทยาศาสตร์อยู่บ่อยๆว่า “จินตนาการ สำคัญมากกว่าความรู้” แต่เขาก็ไม่อธิบายต่อว่า เพราะอะไร จินตนาการจึงสำคัญกว่าความรู้
ภาพในจินตนาการที่จะมีพลังดึงดูดให้ประสบความสำเร็จจะต้องใส่ความรู้สึก เข้าไปด้วย เช่น นักเรียนสองคน สามารถจินตนาการภาพ F=ma ได้ แต่คนหนึ่งใส่ความรู้สึกเข้าไปว่า ....อ้อ F มันเป็นแรงนะ เราเคยรู้สึกตอนถูกผลัก m เป็นมวล รู้สึกได้เลยเพื่อนที่ตัวใหญ่มวลจะมาก ส่วนความเร่ง a เคยรู้สึกตอนเล่นรถไฟเหาะ ฯลฯ ซึ่งความรู้สึกที่ใส่เข้าไป จะต่างกันไปตามประสบการณ์ และความสามารถในการบิ๊วด์ความรู้สึกของแต่ละคน เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสาขาวิชาไม่ว่า จะเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ฯลฯ ( ในหนังสือเดอะท็อปซีเคร็ต ใช้คำว่า "ภาพแห่งความรู้สึก”)
นักเรียนที่เรียนเก่ง ก็ค้นพบความลับนี้ เขาจะกลับมานั่งคิดและจินตนาการต่อที่บ้านเสมอ นักเรียนทุกคนในห้อง เรียนกับอาจารย์คนเดียวกัน บรรยากาศเดียวกัน แต่ความสามารถในการจินตนาการต่างกัน สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในหมู่เด็กที่เรียนเก่งคือ จะมีจินตนาการสูงมาก ความลับนี้เขาไม่ได้บอกใคร อาจเพราะไม่อยากบอก หรือ ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไร เด็กที่เรียนเก่งทุกคนจะมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ คือเมื่อเห็นภาพปุ๊บ เขาจะใส่ความรู้สึกเข้าไปปั๊บ เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆกัน โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม แต่สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้ประสบการณ์ที่เหมือนกันเปี๊ยบระหว่างคนสองคน จึงส่งอิทธิพลต่อวิถีชีวิตได้ไม่เท่ากัน เพราะความสามารถในการจินตนาการต่างกัน แน่นอนว่า อุปนิสัย ความชอบ ความสนใจ ความถนัด ฯลฯ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีพลังแห่งจินตนาการสูงขึ้นหลังจากได้พบกับ ประสบการณ์จริง พวกเขาจะเห็นภาพแห่งความสำเร็จในเรื่องที่ตนเองชอบหรือถนัด ชัดเจนกว่าคนอื่น จึงมีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้ง่ายกว่า
ประสบการณ์จากชีวิตจริง จะประทับลงในจิตใต้สำนึกได้ ต้องมีจินตนาการ เราอาจจะเคยตีแบดมินตัน แต่ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป ไม่เคยจินตนาการต่ออีก ประสบการณ์ในครั้งนั้นก็สูญเปล่า การตีในครั้งต่อไปเราจะไม่เก่งขึ้น เพราะจิตใต้สำนึกจะเข้าใจภาพแห่งจินตนาการเท่านั้น มันไม่มีส่วนเชื่อมต่อโดยตรงกับทวารทางกายทั้งห้า เหมือนอย่างจิตสำนึก
อัจฉริยะของโลกทุกคน ทุกสาขา ค้นพบความลับสุดยอดนี้แล้ว นักศึกษาแพทย์ที่เก่งๆ จะจินตนาการลักษณะของเส้นเลือดร่างกายแต่ละระบบ พยายามบิวด์ความรู้สึกเขาไป แล้วค่อยไปเรียนรู้ลักษณะย่อยของเส้นเลือดแต่ละเส้นในระบบนั้น นิสิตวิศวกรรมที่เก่งๆ สามารถพิสูจน์สมการทางแคลคูลัสได้ โดยคิดย้อนจากคำตอบขึ้นมา ทำให้ไม่ว่าอาจารย์จะกำหนดสมการแบบไหนมา เขาก็ตอบถูกเสมอ เพราะเอาคำถามของอาจารย์นั่นแหละ เป็นตัวตั้งคิดย้อนขึ้นไปพิสูจน์ ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เพราะพวกเขามีมันสมองที่ใหญ่กว่าคนอี่น แต่เพราะพวกเขาพบความลับนี้ อาจจะด้วยพรสวรรค์ หรือ การเรียนรู้ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ไม่มีใครที่สามารถเปิดเผยความลับนี้ให้คนอื่นได้รับรู้
ถ้าเราไปถามศิลปินนักวาดภาพที่เก่งๆ ว่าทำไมถึงวาดภาพได้ขนาดนี้ เขาจะตอบไม่ได้ ทั้งๆที่ ภาพนั้นฝังอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว มือเขาเพียงแต่วาดไปตามความรู้สึกเท่านั้นเอง ศิลปินระดับนี้ จึงต้องบิวด์อารมณ์ก่อนทำงานเสมอ เพราะอารมณ์จะทำให้ภาพในใจชัดเจนยิ่งขึ้น วันไหนไม่มีอารมณ์ จะทำงานไม่ได้เลย
สมองคนเราถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างไม่แตกต่างกัน สิ่งที่ต่างกันคือความสามารถในการจินตนาการ ไอน์สไตน์ จึงบอกว่า จินตนาการสำคัญมากกว่าความรู้ จงพยายามจินตนาการไปแล้วอย่าลืมใส่ความรู้สึกเข้าไปด้วย ในที่สุดมันจะมีพลังมหัศจรรย์จากจิตใต้สำนึก มาขับดันให้คุณเกิดการหยั่งรู้โดยอัตโนมัติ
ภาพในจินตนาการที่จะมีพลังดึงดูดให้ประสบความสำเร็จจะต้องใส่ความรู้สึก เข้าไปด้วย เช่น นักเรียนสองคน สามารถจินตนาการภาพ F=ma ได้ แต่คนหนึ่งใส่ความรู้สึกเข้าไปว่า ....อ้อ F มันเป็นแรงนะ เราเคยรู้สึกตอนถูกผลัก m เป็นมวล รู้สึกได้เลยเพื่อนที่ตัวใหญ่มวลจะมาก ส่วนความเร่ง a เคยรู้สึกตอนเล่นรถไฟเหาะ ฯลฯ ซึ่งความรู้สึกที่ใส่เข้าไป จะต่างกันไปตามประสบการณ์ และความสามารถในการบิ๊วด์ความรู้สึกของแต่ละคน เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสาขาวิชาไม่ว่า จะเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ฯลฯ ( ในหนังสือเดอะท็อปซีเคร็ต ใช้คำว่า "ภาพแห่งความรู้สึก”)
นักเรียนที่เรียนเก่ง ก็ค้นพบความลับนี้ เขาจะกลับมานั่งคิดและจินตนาการต่อที่บ้านเสมอ นักเรียนทุกคนในห้อง เรียนกับอาจารย์คนเดียวกัน บรรยากาศเดียวกัน แต่ความสามารถในการจินตนาการต่างกัน สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในหมู่เด็กที่เรียนเก่งคือ จะมีจินตนาการสูงมาก ความลับนี้เขาไม่ได้บอกใคร อาจเพราะไม่อยากบอก หรือ ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไร เด็กที่เรียนเก่งทุกคนจะมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ คือเมื่อเห็นภาพปุ๊บ เขาจะใส่ความรู้สึกเข้าไปปั๊บ เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆกัน โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม แต่สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้ประสบการณ์ที่เหมือนกันเปี๊ยบระหว่างคนสองคน จึงส่งอิทธิพลต่อวิถีชีวิตได้ไม่เท่ากัน เพราะความสามารถในการจินตนาการต่างกัน แน่นอนว่า อุปนิสัย ความชอบ ความสนใจ ความถนัด ฯลฯ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีพลังแห่งจินตนาการสูงขึ้นหลังจากได้พบกับ ประสบการณ์จริง พวกเขาจะเห็นภาพแห่งความสำเร็จในเรื่องที่ตนเองชอบหรือถนัด ชัดเจนกว่าคนอื่น จึงมีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้ง่ายกว่า
ประสบการณ์จากชีวิตจริง จะประทับลงในจิตใต้สำนึกได้ ต้องมีจินตนาการ เราอาจจะเคยตีแบดมินตัน แต่ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป ไม่เคยจินตนาการต่ออีก ประสบการณ์ในครั้งนั้นก็สูญเปล่า การตีในครั้งต่อไปเราจะไม่เก่งขึ้น เพราะจิตใต้สำนึกจะเข้าใจภาพแห่งจินตนาการเท่านั้น มันไม่มีส่วนเชื่อมต่อโดยตรงกับทวารทางกายทั้งห้า เหมือนอย่างจิตสำนึก
อัจฉริยะของโลกทุกคน ทุกสาขา ค้นพบความลับสุดยอดนี้แล้ว นักศึกษาแพทย์ที่เก่งๆ จะจินตนาการลักษณะของเส้นเลือดร่างกายแต่ละระบบ พยายามบิวด์ความรู้สึกเขาไป แล้วค่อยไปเรียนรู้ลักษณะย่อยของเส้นเลือดแต่ละเส้นในระบบนั้น นิสิตวิศวกรรมที่เก่งๆ สามารถพิสูจน์สมการทางแคลคูลัสได้ โดยคิดย้อนจากคำตอบขึ้นมา ทำให้ไม่ว่าอาจารย์จะกำหนดสมการแบบไหนมา เขาก็ตอบถูกเสมอ เพราะเอาคำถามของอาจารย์นั่นแหละ เป็นตัวตั้งคิดย้อนขึ้นไปพิสูจน์ ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เพราะพวกเขามีมันสมองที่ใหญ่กว่าคนอี่น แต่เพราะพวกเขาพบความลับนี้ อาจจะด้วยพรสวรรค์ หรือ การเรียนรู้ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ไม่มีใครที่สามารถเปิดเผยความลับนี้ให้คนอื่นได้รับรู้
ถ้าเราไปถามศิลปินนักวาดภาพที่เก่งๆ ว่าทำไมถึงวาดภาพได้ขนาดนี้ เขาจะตอบไม่ได้ ทั้งๆที่ ภาพนั้นฝังอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว มือเขาเพียงแต่วาดไปตามความรู้สึกเท่านั้นเอง ศิลปินระดับนี้ จึงต้องบิวด์อารมณ์ก่อนทำงานเสมอ เพราะอารมณ์จะทำให้ภาพในใจชัดเจนยิ่งขึ้น วันไหนไม่มีอารมณ์ จะทำงานไม่ได้เลย
สมองคนเราถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างไม่แตกต่างกัน สิ่งที่ต่างกันคือความสามารถในการจินตนาการ ไอน์สไตน์ จึงบอกว่า จินตนาการสำคัญมากกว่าความรู้ จงพยายามจินตนาการไปแล้วอย่าลืมใส่ความรู้สึกเข้าไปด้วย ในที่สุดมันจะมีพลังมหัศจรรย์จากจิตใต้สำนึก มาขับดันให้คุณเกิดการหยั่งรู้โดยอัตโนมัติ
วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เยี่ยมบ้านนักเรียน ปีการศึกษา 2552 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/9
บรรยากาศการอบรมการเขียนเค้าโครงการวิจัย ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2552 ณ.อินเตอร์รีสอร์ท จังหวัดอุดรธานี
กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิทางด้านงานวิจัย จากภาควิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มีสมาชิกปริญญาโท ภาคพิเศษ เข้ารับการอบรม ของศูนย์การศึกษาจากอิสานตอนล่าง บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น
สังสรรค์สร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างเอกบริหารฯ จากศูนย์ต่าง ๆ ไม่สนุกคงไม่รู้จะว่าไง...ดูได้จากภาพแล้วกัน
ระหว่างทางกลับแวะชมสุสานหอยล้านปี
มีสมาชิกปริญญาโท ภาคพิเศษ เข้ารับการอบรม ของศูนย์การศึกษาจากอิสานตอนล่าง บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น
สังสรรค์สร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างเอกบริหารฯ จากศูนย์ต่าง ๆ ไม่สนุกคงไม่รู้จะว่าไง...ดูได้จากภาพแล้วกัน
ระหว่างทางกลับแวะชมสุสานหอยล้านปี
วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ต้อนรับสมาชิก
สวัสดีค่ะ มือใหม่หัดทำยินดีต้อนรับทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาชมบล๊อกใหม่ค่ะ จะพยายามสรรสร้างสิ่งใหม่เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่สอน แล้วมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)